เงินทองของจริง

ดอกเบี้ยบัตรเครดิต เขาคิดกันอย่างไร?

ทุกสรรพสิ่งล้วนมีข้อดีพร้อมข้อเสีย ความสะดวกสบายของบัตรเครดิตก็เช่นกัน ที่ต้องพึงระวังเมื่อใช้จับจ่าย

"บัตรเครดิต" เป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนเงินสดสำหรับบางช่องทางที่เงินสดเข้าไม่ถึง เมื่อใช้รูดไปแล้วจะมีระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยประมาณ 45 วัน ความหมายคือ หากจ่ายคืนภายในระยะเวลาที่กำหนด จะไม่ต้องเสียดอกเบี้ย แถมบางบัตรยังมีสิทธิพิเศษใช้แล้วได้แต้ม แลกเป็นสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้ด้วย

สำหรับบางคนที่จ่ายคืนเต็มจำนวนไม่ไหว ใช้วิธีจ่ายขั้นต่ำแทน จะมีผลตามมา 2 เรื่องใหญ่ ๆ คือ "ค่าใช้วงเงิน" ซึ่งคำนวณจากยอดเงินที่ใช้แบบแยกรายการ เช่น รูดบัตรซื้อของ 2 อย่างราคา 10,000 บาท และ 30,000 บาท จะคำนวณจาก 10,000*16% และ 30,000*16% นับระยะเวลาตั้งแต่วันที่รูดซื้อถึงวันที่เรียกเก็บ

เรื่องที่สอง คือ "ดอกเบี้ย" เช่น รูดบัตรซื้อของราคา 10,000 บาท จ่ายขั้นต่ำเพียง 10% หรือ 1,000 บาท ดอกเบี้ยจะคำนวณจากยอดคงค้าง 9,000 บาท ดังนั้น หากจ่ายขั้นต่ำ จะโดนค่าใช้จ่ายถึง 2 ทาง คือ ค่าใช้วงเงิน 16% และดอกเบี้ย ของยอดคงค้าง โดยต่างกันที่จำนวนวันนั่นเอง

นอกจากค่าใช้วงเงินและดอกเบี้ยจากการจ่ายขั้นต่ำแล้ว หากจ่ายไม่ตรงเวลาทั้งกรณีจ่ายเต็มจำนวนและจ่ายขั้นต่ำ จะมีผลกระทบตามมามหาศาลทั้งในรูปของตัวเงินและไม่ใช่ตัวเงิน ดังนี้

1. ค่าติดตามทวงถาม เมื่อเทียบกับดอกเบี้ยแล้วถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก

2. ค่าปรับ 18% ต่อปี โดยคำนวณจากตัวเลขคงค้าง และหากโดนทั้งดอกเบี้ยเดิม ดอกเบี้ยปรับ และค่าติดตามทวงถาม อาจทำให้ภายในระยะเวลาเพียงสั้น ๆ มียอดหนี้ที่พุ่งสูงได้

3. ประวัติการชำระหนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงิน แต่เป็นความเสียหายในระยะยาว เพราะทำให้เสียโอกาสการเข้าถึงสินเชื่ออื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์ เช่น กู้ซื้อบ้าน กู้ซื้อรถ เป็นต้น

การจ่ายขั้นต่ำไปพร้อมกับการใช้บัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ มีโอกาสทำให้การเงินพังได้สูง หากมีหนี้แล้วใช้วิธีหนีปัญหาโดยการไม่จ่ายเป็นสิ่งที่ไม่ควร ควรแก้ปัญหาด้วยการเจรจาขอปิดการใช้บัตร ซึ่งทางสถาบันการเงินจะคำนวณดอกเบี้ยปรับให้ เพื่อเคลียร์และปิดบัญชีได้ต่อไป

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.15-9.25 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark