คลิปที่เกี่ยวข้อง

เที่ยวภูกระดึง ตะลุย 5 ที่เที่ยวห้ามพลาด เที่ยวช่วงไหน เตรียมอะไรบ้าง มาดูกัน



แบกเป้ ตะลุยเที่ยว ภูกระดึง ยอดเขาที่ใครก็อยากมาพิชิต เตรียมไปสัมผัสลมหนาว เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ กันได้แล้วที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย โดยทางอุทยานฯ ได้เริ่มเปิดให้เที่ยวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ไปจนถึง 31 พฤษภาคม 2567 สามารถจองคิวเข้าอุทยานผ่าน App QueQ ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน


ดู ที่เที่ยวเลย เชียงคาน เพิ่มเติมที่นี่

>> 10 ที่เที่ยวเลย เชียงคาน เที่ยวเมืองรอง ชมธรรมชาติ ทะเลหมอกภูอีสาน




สำหรับบ้านพักและเต็นท์ ก็สามารถจองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วันเช่นกัน สามารถจองที่พักภูกระดึงได้ที่นี่ https://nps.dnp.go.th/reservation.php หรือติดต่อฝ่ายบริการที่พัก โทร. 02 562 0760, 02 561 0777 ต่อ 1743, 1744


 


เที่ยวภูกระดึง ช่วงไหนดี

ภูกระดึง ไม่ได้เปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวชมได้ตลอดปี โดยช่วงเปิดฤดูการท่องเที่ยว จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม ของทุกปี เป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ไปจนถึงฤดูหนาว และฤดูร้อน ส่วนช่วงปิดฤดูการท่องเที่ยวจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน - 30 กันยายน ของทุกปี ซึ่งเป็นช่วงฤดูฝน จึงไม่เหมาะกับการท่องเที่ยว


เที่ยวภูกระดึง กี่วัน

โดยทั่วไปนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวบนภูกระดึง 3 วัน 2 คืน ซึ่งถือว่าเป็นระยะเวลาที่กำลังดี สามารถเที่ยวได้ครบ คุ้มค่ากับเวลา และไม่เหนื่อยจนเกินไป โดยนับวันเดินขึ้น - ลงจากยอดภูกระดึงอย่างละ 1 วัน เดินชมเส้นทางสายน้ำตก และเดินชมเส้นทางสายหน้าผา 1 วัน ซึ่งรวมเป็นระยะเวลา 3 วัน 2 คืน หรือถ้าใครอยากหาเครื่องทุ่นแรง หรือมีเวลาจำกัด แต่อยากเที่ยวให้คุ้ม ที่นี่ก็มีจักรยานให้เช่า เอาไว้ปั่นไปตามที่เที่ยวจุดต่าง ๆ ได้สะดวกขึ้น




เตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาพิชิตยอดภูกระดึงกัน

การเตรียมฟิตร่างกายให้เต็มที่ และเตรียมอุปกรณ์การเดินทางให้พร้อม เป็นเรื่องจำเป็นสำหรับการมาเที่ยวภูกระดึง โดยเฉพาะคนที่ตั้งใจจะมาพิชิตยอดภูกระดึง เพราะทริปนี้เราจะต้องเดินกันเยอะมาก ๆ รองเท้าที่ใส่ควรเป็นรองเท้าผ้าใบที่ใส่สบาย และเหมาะกับการเดินป่า




อุปกรณ์จำเป็นที่ควรพกติดตัวไว้ เช่น ยารักษาโรค ไฟฉาย เสื้อกันหนาว ถุงมือ ถุงเท้ากันทาก เป็นต้น

การขึ้นภูกระดึงนั้นจะมีค่าธรรมเนียม คือ ผู้ใหญ่ 40 บาท และเด็ก 20 บาทเท่านั้น
ที่สำคัญทางอุทยานฯ มีบริการลูกหาบ ค่าบริการจะคิดตามน้ำหนักสัมภาระ กิโลกรัมละ 30 บาทโดยประมาณ ใครสัมภาระเยอะก็สามารถใช้บริการได้เลย เป็นการสนับสนุนอาชีพ สร้างรายได้ให้ชาวบ้านอีกด้วย




กิจกรรมท่องเที่ยวบนภูกระดึง

นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวชมอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ส่วนมากจะมาเดินเที่ยวชมธรรมชาติตามจุดต่าง ๆ เช่น สระอโนดาต ชมน้ำตก ชมหน้าผา ชมทะเลหมอก และชมพระอาทิตย์ตก สัมผัสธรรมชาติสุดอันซีน เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเที่ยวภูกระดึงเลยก็ว่าได้



1. หลังแป • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แบกเป้ เที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน



ใครที่ได้ขึ้นไปพิชิตยอดภู ต้องเจอกับประโยคนี้ “ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิต” บนป้ายไม้ขนาดใหญ่ ที่นี่แหล่ะ คือ หลังแป จุดชมวิวจุดแรกของยอดภูกระดึง บนความสูง 1,288 เมตร โดยทางอุทยานฯ จะเปิดให้ขึ้นภูกระดึงได้ในช่วงเวลา 07.00 น. - 14.00 น. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางไปถึงที่พักบนยอดภูกระดึงได้ก่อนช่วงค่ำ




โดยเส้นทางกว่าจะมาถึงบนยอดภูกระดึง นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าวัดใจผ่านเส้นทางต่าง ๆ ตั้งแต่ ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และหลังแป ซึ่งช่วงที่จะขึ้นไปยังหลังแป จะเป็นเส้นทางที่ต้องใช้การปีนป่ายโขดหินเพื่อขึ้นไป โดยจะต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ

พิกัด : Google Map




2. น้ำตกถ้ำใหญ่ • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แบกเป้ เที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน



น้ำตกถ้ำใหญ่ เป็นน้ำตกที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติภูกระดึง อีกหนึ่งแลนด์มาร์คยอดฮิตของเหล่าผู้พิชิตภูกระดึง จาก หลังแป เดินเท้ามา 4.4 กิโลเมตร หรือประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะถึงน้ำตกถ้ำใหญ่




ตลอดเส้นทางครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขา ที่มีพรรณไม้ใหญ่ และร่มครึ้มกว่าทุกเส้นทางที่จะไปน้ำตกอื่น ๆ ระหว่างทางก็จะได้เดินชมนกชมไม้ไปเพลิน ๆ หากมาช่วงกลางเดือนธันวาคม - ต้นเดือนมกราคม เส้นทางนี้จะเต็มไปด้วยใบเมเปิ้ลสีแดงที่ร่วงหล่นเต็มพื้นป่า จุดนี้จะถ่ายรูปออกมาสวย ถูกใจคนรักธรรมชาติแน่นอน




น้ำตกถ้ำใหญ่ เป็นน้ำตกสวยที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าดิบเขาที่อุดมสมบูรณ์ ถูกล้อมรอบไปด้วยโขดหินน้อยใหญ่ ที่มีมอสสีเขียวๆ ขึ้นปกคลุมไปทั่ว แม้จะไม่ใช่น้ำตกขนาดใหญ่ แต่ก็ได้สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

พิกัด : Google Map




3. สระอโนดาต • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แบกเป้ เที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน



สระอโนดาต เป็นสระน้ำขนาดใหญ่ที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 3.4 กิโลเมตรเป็นสระน้ำตามธรรมชาติที่มีน้ำตลอดทั้งปี แวดล้อมไปด้วยต้นสนสองใบ และต้นสนสามใบขึ้นอยู่รอบสระ เรียงเป็นแนวสวยงาม




ใกล้กับสระอโนดาตยังมี ลานกินรี ลานหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด ทั้งพวกกินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง หรือเฟิน เช่น กระปรอกสิงห์ บนหินยังมีไลเคนขึ้นอยู่เต็มไปหมด ทำให้เห็นว่าที่นี่ถือเป็นแหล่งน้ำที่มีความสำคัญมากต่อสัตว์ป่าบนภูกระดึง

พิกัด : Google Map







4. ผาเหยียบเมฆ • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แบกเป้ เที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน



ผาเหยียบเมฆ อีกหนึ่งไฮไลท์ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในการขึ้นมาชมทะเลหมอก และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยไม่แพ้ที่อื่น ๆ เลย เพราะถ้าพูดถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยที่สุดในภูกระดึง หลายคนอาจนึกถึง ผาหล่มสัก และ ผาหมากดูก แต่ระหว่างสองจุดนี้ยังมี ผาเหยียบเมฆ มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง และมีลานหินกว้าง ด้าน 30-35 องศา ด้านหลังเป็นป่าสน มีพื้นผิวตะปุ่มตะป่ำ และมีโขดหินที่ยกขึ้นสูงลักษณะคล้ายก้อนเมฆ นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปยืนถ่ายรูปบนนั้น ถ้าเป็นวันที่มีไอหมอกหนาแน่น ก็ยิ่งทำให้มีความรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนปุยเมฆเลยล่ะ




นอกจากนี้ วิวบนผาเหยียบเมฆ ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้ในมุมกว้าง โดยจะมองเห็น ผานกเค้า ซึ่งอยู่บริเวณ อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ไปจนถึง จังหวัดชัยภูมิ และ จังหวัดเพชรบูรณ์ อีกด้วย

พิกัด : Google Map




5. ผาหล่มสัก • อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
แบกเป้ เที่ยวภูกระดึง 3 วัน 2 คืน



ผาหล่มสัก เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้อย่างชัดเจนและสวยงามมาก ๆ โดยอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ไปประมาณ 9 กิโลเมตร เป็นลานหินกว้าง และมีสนต้นหนึ่งขึ้นชิดริมผาใกล้กับชะง่อนหินที่ยื่นออกไปนอกหน้าผา เกิดเป็นภาพที่สวยงาม ผาแห่งนี้จึงถือเป็นสัญลักษณ์ของภูกระดึง




ผู้ที่สนใจไปชมประอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ควรเตรียมเสื้อกันหนาว และไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางเวลาเดินกลับที่พักไว้ด้วย ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลาเดินเท้ากลับที่พักประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง

พิกัด : Google Map



 



BUGABOO LIFESTYLE

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark