เงินทองของจริง

เทคนิคเก็บเงินสำรองฉุกเฉินสำหรับมือใหม่

เงินสำรองฉุกเฉิน เป็นเงินที่หลาย ๆ คนมองข้าม เนื่องจากเมื่อเวลาเรามีเงินเก็บ เงินออม เราจะมีความคิดว่าจะนำเงินไปลงทุน แต่เราควรจะมีเงินเก็บสักหนึ่งก้อน

เงินสำรองฉุกเฉิน คือ เงินที่เก็บไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน หรือการออมเพื่อสำรองฉุกเฉิน กรณีที่ไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้ เช่น ตกงาน อุบัติเหตุ เจ็บป่วย ซ่อมแซมบ้าน รถ ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ไม่คาดคิด ไม่คาดฝัน โดยเงินสำรองฉุกเฉิน ควรเก็บไว้ในที่ที่มีสภาพคล่องสูง เบิกถอนได้ทันที เมื่อต้องการ

ความสำคัญของเงินสำรองฉุกเฉิน
เงินสำรองฉุกเฉินมีความสำคัญมากในการบรรเทาสถานการณ์ทางการเงินที่ไม่คาดฝันได้เงินสำรองฉุกเฉินจึงเป็นวิธีการเก็บเงินที่มีประโยชน์ต่อทั้งตัวเราเองและคนใกล้ชิด

โดยความสำคัญของเงินสำรองฉุกเฉิน มีดังนี้
- ช่วยทำให้เรามีเงินใช้ในยามฉุกเฉิน โดยที่ไม่ต้องไปกู้ยืมเงินจากผู้อื่น ที่อาจจะทำให้เกิดหนี้สินตามมาได้
- ไม่ต้องใช้สินทรัพย์ทางการลงทุน เงินสำรองฉุกเฉินทำให้เราไม่ต้องถอนเงินจากการลงทุนหรือขายสินทรัพย์เพื่อทำหนี้ในกรณีฉุกเฉิน ช่วยให้คุณรักษาการลงทุนและประสิทธิภาพของการวางแผนการเงิน
- ช่วยให้เรารู้สึกอุ่นใจและมั่นคงทางการเงินมากขึ้น เมื่อมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้น เราจะไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง เพราะมีเงินสำรองฉุกเฉินอยู่
- ช่วยให้เราสามารถวางแผนการเงินอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การลงทุน ซื้อบ้าน ซื้อรถ เป็นต้น

เทคนิคในการเก็บเงินสำรองฉุกเฉินแบบง่าย ๆ
1. รู้ค่าใช้จ่าย-รายได้ของตนเอง
2. สร้างแผนการเงินและเปิดบัญชีเงินฉุกเฉิน
3. หาวิธีเพิ่มรายได้

วิธีคำนวณเงินสำรองฉุกเฉิน แต่ละอาชีพก็จะมีความแตกต่างกันออกไป

กลุ่มอาชีพพนักงานเอกชน
พนักงานเอกชนส่วนใหญ่มีรายได้ประจำที่แน่นอน แต่อาจมีความเสี่ยงที่จะตกงานได้หากบริษัทประสบปัญหาหรือเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้น เงินสำรองฉุกเฉินจึงควรมีอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ตัวอย่าง มีรายได้ประจำเดือนละ 20,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 15,000 บาท จึงควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรือ 45,000-90,000 บาท

กลุ่มอาชีพข้าราชการและรัฐวิสาหกิจ
ข้าราชการและรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่มีรายได้ประจำที่มั่นคงและมีโอกาสตกงานน้อย ดังนั้น เงินสำรองฉุกเฉินจึงอาจไม่ต้องมีมากเท่ากับกลุ่มอาชีพพนักงานเอกชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการวางแผนการเงินแนะนำว่าอาจเก็บเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 2-4 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ตัวอย่าง ข้าราชการ มีรายได้ประจำเดือนละ 30,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 20,000 บาท จึงควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 2-4 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรือ 40,000-80,000 บาท

กลุ่มอาชีพอิสระ
อาชีพอิสระรายได้แต่ละเดือนจะไม่แน่นอนเมื่อเทียบกับกลุ่มพนักงานประจำหรือข้าราชการ ดังนั้น จึงมีโอกาสตกงานหรือมีรายได้ลดลงได้สูง เงินสำรองฉุกเฉินจึงควรมีอย่างน้อย 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน

ตัวอย่าง ฟรีแลนซ์ มีรายได้ต่อเดือนไม่แน่นอน แต่เฉลี่ยอยู่ที่ 15,000 บาท และมีค่าใช้จ่ายต่อเดือน 10,000 บาท จึงควรมีเงินสำรองฉุกเฉินอย่างน้อย 6-12 เท่าของค่าใช้จ่ายต่อเดือน หรือ 90,000-180,000 บาทและช่วงที่มีรายได้ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวังเพื่อให้เหลือส่วนแบ่งของเงินสำรองฉุกเฉินไว้ด้วย

หลาย ๆ คนมองว่าทุกวันนี้เงินที่จะต้องใช้จ่ายก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว จะเอาเงินจากไหนไปเก็บ? ความจริงแล้วเราสามารถแบ่งออมเงินเท่าที่เราไหว ค่อย ๆ ทยอยเก็บไปเรื่อย ๆ ได้ ไม่ต้องรีบ การเก็บเงินสำรองจะทำให้ชีวิตของเรามีความมั่นคงมากขึ้น

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark