เงินทองของจริง

จับตาสถานการณ์เพื่อนบ้าน เมียนมา บังคับหนุ่ม-สาวเกณฑ์ทหาร สะเทือนถึงไทย ?

หลังจากที่รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศกฎหมายรับราชการทหาร โดยกำหนดให้ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 18-35 ปี และผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 18-27 ปี ต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปี กฎหมายข้อนี้ส่งผลกระทบต่อคนเมียนมาอย่างไรบ้าง วันนี้มีคำตอบ ?

วันนี้รายการเงินทองของจริงมีแขกรับเชิญพิเศษ ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการค้า การลงทุน โดยเฉพาะกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา "คุณกริช อึ้งวิฑูรสถิตย์" ประธานสภาธุรกิจไทย-เมียนมา และกรรมการผู้จัดการ บริษัท สากลธุรกิจเลิศรวมมิตร, ร้านอาหารอาจิเซน ราเมน รวมถึงธุรกิจเวดดิ้ง-สถานที่รับจัดงานแต่งงานสไตล์บ้านเรือนไทย

คุณกริช เผยว่า ได้ยอมรับว่าในปัจจุบันแรงงานชาวเมียนมา มีโอกาสเข้ามาในประเทศอย่างถูกกฎหมายที่น้อยลง โดยมีบางส่วนที่พยายามที่หลบเลี่ยงเข้าสู่ประเทศไทย  หลังจากที่รัฐบาลทหารเมียนมาประกาศกฎหมายรับราชการทหาร โดยกำหนดให้ผู้ชายที่อายุตั้งแต่ 18-35 ปี และผู้หญิงที่อายุตั้งแต่ 18-27 ปี ต้องเข้ารับใช้ชาติเป็นเวลา 2 ปี ส่งผลให้ชาวเมียนมาตื่นตระหนก

แต่การประกาศกฎหมายข้างต้น ก็ทำให้คนหนุ่มสาวในประเทศเกิดความตื่นตระหนก และนำไปสู่การย้ายหนีออกนอกประเทศ ทั้งแบบถูกกฎหมาย  และ การลักลอบหนีข้ามแดน ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ในเป้าหมายมากที่สุด โดยปัจจุบันมีวิธีการเข้าเมืองและอาศัยอยู่อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วย 4 วิธีนี้

วิธีที่ 1 คือ การเข้ามาแล้วไปขออาศัยอยู่แบบการใช้ชีวิตบั้นปลายที่ประเทศไทย (Retirement Visa) โดยต้องมีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป และมีเงินฝากประจำอย่างน้อย 800,000 บาท ก็สามารถขอ Visa แบบเกษียณอายุได้

วิธีที่ 2 คือ การขอวีซ่าการทำงานในประเทศไทย ซึ่งก็มีทั้งหมดหลายวิธี เช่น ขอแบบ Work permit, แบบ MOU, แบบบัตรสีชมพูหรือ Pink Card

วิธีที่ 3 คือ แบบแรงงานตามฤดูกาล ซึ่งในปัจจุบันนี้ทางการเมียนมาเริ่มระงับการออกใบอนุญาตใหม่

วิธีที่ 4 คือ การเข้ามาโดยใช้ วีซ่านักเรียน (Student Visa) ซึ่งสามารถหาสถานศึกษาที่จะเข้ามาเรียนหนังสือได้เกือบทุกแห่งที่เป็นสถาบันแบบอินเตอร์ หรือ ถ้าเป็นสถานศึกษาทั่วไป ก็จะต้องเรียนในระบบทั่วไป และต้องมีความรู้ด้านภาษาไทยจึงจะเข้าเรียนได้

สำหรับสถานการณ์ด้านการศึกษาของบ้านเราที่เริ่มสั่นคลอน ด้วยจำนวนนักเรียน-นักศึกษาที่ลดลง ซึ่งการหลากล้นเข้ามาของหนุ่มสาวชาวเมียนมา โดยเฉพาะประชากรที่อยู่ในวัยเรียน จะส่งผลดีต่อภาคการศึกษาของบ้านเราอย่างไรบ้าง ?

กลุ่มคนร่ำรวย มีฐานะ และ กลุ่มคนที่ต้องการศึกษาหาความรู้  การเข้ามาของคน 2 กลุ่มนี้ อาจจะส่งผลดีต่อประเทศไทยเพราะสิ่งที่พวกเขาต้องการหลักๆ คืออยากให้ลูกหลานมีการศึกษาที่ดี ถ้าหากไปดูบริษัทจัดการเรื่องการศึกษาในเมียนมา จะเห็นว่าเขาสามารถส่งบุตรหลานของลูกค้าเขา ไปเรียนที่สหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และไทย เยอะมาก

แน่นอนว่า หากเขาเลือกที่จะให้บุตรหลานของเขาออกไปเรียนหนังสือที่ต่างประเทศ เขาต้องเลือกจากเหตุผลหลักดังต่อไปนี้
1.สถานที่ใกล้ที่สุด
2.ค่าใช้จ่ายต่ำที่สุด
3.สะดวกสบายที่สุด 
4.รวมถึงเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ที่ใกล้เคียงบ้านเกิดมากที่สุด

คำตอบที่น่าจะชัดเจนมากที่สุดก็คือ “ประเทศไทย”

นำไปสู่งานสัมนา “เมียนมา-ไทย โอกาสธุรกิจของอนุภูมิภาค” ที่จะเชิญ กลุ่มนักธุรกิจ ทั้งไทยและเมียนมา มาจัดเสวนาอัปเดตสถานการณ์บ้านเมืองของเมียนมา ทั้งในแง่สังคม เศรษฐกิจ การลงทุน การศึกษา และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ด้านการศึกษา แรงงาน และอสังหาริมทรัพย์ ได้มีพื้นที่สำหรับเจรจาทางการค้าระหว่างไทยและเมียนมา


อัปเดตโอกาสธุรกิจไทยและเมียนมา
Thailand & Myanmar Business Matching 2024

โอกาสพิเศษในการจับคู่เครือข่ายธุรกิจ เข้าถึงระบบการศึกษา ส่องเทรนด์อสังหาฯ ลงทุนสินค้าและบริการทั้ง 2 ประเทศ

- สถานการณ์เมียนมา 2567 : เจาะลึกการลงทุนของนักธุรกิจไทยและเมียนมา
- เปิดตลาดธุรกิจ ส่องเทรนด์ของสินค้าและบริการที่มาแรง
- ที่ปรึกษาด้านกฎหมายไทย-เมียนมา : การเข้าเมืองอย่างถูกต้อง และวิธีการทำธุรกิจในไทยและเมียนมา ฯลฯ
- โอกาสอสังหาฯ ไทย "เมียนมา" ติดท็อป 3 ชาวต่างชาติซื้อคอนโดในไทย
- ประเทศไทย : เมืองแห่งการศึกษาของคนเมียนมา

ในวันอังคารที่ 9 เมษายน 2567 เวลา 09.00 - 18.00 น.
ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมแกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพฯ

จำหน่ายบัตรราคาเพียง 1,400 บาท
พิเศษ! สมาชิกสภาอุตสาหกรรม ลด 10%

พบกับ "โคชหนุ่ม" และ "กาย สวิตต์" ได้ใน "เงินทองของจริง" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.05-9.15 น. ทางช่อง 7HD กด 35

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark