15 ที่เที่ยวลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง เดินทางง่าย เที่ยวได้ด้วยตัวเอง

คลิปที่เกี่ยวข้อง

15 ที่เที่ยวลาว เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง เดินทางง่าย เที่ยวได้ด้วยตัวเอง



ลาว หรือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกับไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามไม่ควรพลาดอย่าง หลวงพระบาง วังเวียง เวียงจันทร์ จำปาสัก เชียงขวาง ปากเซ เป็นต้น และยังเป็นการเที่ยวต่างประเทศที่ใช้งบไม่เยอะอีกด้วย


เนื่องจากเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงกับไทย จึงสามารถท่องเที่ยวได้แบบสบาย ๆ ค่าใช้จ่ายไม่แพง เดินทางง่าย ไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ สามารถเดินทางมาได้ทั้ง รถยนต์ส่วนตัว รถทัวร์ รถไฟ นั่งเรือ และเครื่องบิน (โดยสำหรับรถยนต์ส่วนตัว จะต้องทำพาสปอร์ตรถก่อนเดินทาง ซึ่งสามารถขอทำได้ที่ กรมการขนส่งจังหวัดทุกจังหวัด)




ผู้ถือหนังสือเดินทางไทย สามารถเที่ยวได้ 30 วัน โดยไม่ต้องขอวีซ่า กรณีผู้ที่ไม่มีหนังสือเดินทาง สามารถขอบัตรผ่านแดนชั่วคราว ด้วยการยื่นสำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ, รูปถ่าย 2 นิ้ว 2 รูป ก็สามารถทำบัตรผ่านแดนชั่วคราวได้ทันที แต่จะเข้าได้เฉพาะนครหลวงเวียงจันทน์เท่านั้น ซึ่งอยู่ได้ครั้งละ 3 วัน 2 คืน


>> อัปเดต 34 ประเทศ ไม่ต้องขอวีซ่า เที่ยวต่างประเทศได้กี่วัน ไปไหนได้บ้าง


เที่ยวลาว ช่วงไหนดี
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเดินทางไปประเทศลาว คือ ช่วงฤดูแล้ง (เดือนพฤศจิกายน - เดือนเมษายน) และฤดูหนาว (เดือนธันวาคม - เดือนกุมภาพันธ์) ซึ่งถือเป็นช่วง High Season ของที่นั่น อากาศกำลังดี ไม่มีฝนตก




ที่เที่ยวเวียงจันทน์
เที่ยวลาวด้วยตัวเอง เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง


1. พระธาตุหลวง • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



พระธาตุหลวง (Pha That Luang) หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ศาสนสถานที่ทรงคุณค่า เป็นศูนย์รวมใจของประชาชนชาวลาว ตามตำนานประวัติศาสตร์ลาวเล่าว่า พระธาตุหลวงถูกก่อสร้างมายาวนานนับพันปี เช่นเดียวกันพระธาตุพนมในประเทศไทย และสร้างขึ้นพร้อม ๆ กับการสร้างเมืองเวียงจันทน์


ลักษณะขององค์พระธาตุมีความสูง 45 เมตร ลักษณะคล้ายดอกบัวตูม เป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา และยังมีพระธาตุเล็กอยู่บนชั้นที่สองของพระธาตุใหญ่อีก 30 องค์




ในทุก ๆ ปี จะมีงาน ประเพณีบุญนมัสการพระธาตุหลวง ในวัน ขึ้น 13 ค่ำ เดือน 12 ที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณกาล


ค่าเข้าชม : 30,000 กีบ หรือประมาณ 50 - 60 บาท (ราคาชาวต่างชาติ)
เปิดเข้าชม : 08.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 17.00 น. (ปิดวันจันทร์)
พิกัด : Google Map




2. ประตูชัย • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



ประตูชัย หรือ ปะตูไซ (Patuxay Monument) ตั้งอยู่ใจกลางนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อสดุดีวีรชนผู้ร่วมรบเพื่อประกาศเอกราชจากประเทศฝรั่งเศส สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2500 - 2511 ตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านช้าง มีการนำลวดลายของสัตว์ในตำนานตามความเชื่อของศาสนาพุทธ ทั้ง กินรี และพญานาค รวมถึงเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู มาตกแต่ง




บริเวณโดยรอบมีลานจัดการแสดงน้ำพุประกอบดนตรี และสวนปะตูไซ ที่ถูกจัดแต่งอย่างสวยงาม ด้านบนเป็นจุดชมวิว นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวเมืองเวียงจันทร์บนปะตูไซได้


ค่าเข้าชม : 2,000 กีบ
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




3. วัดสีสะเกด • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



วัดสีสะเกด (Wat Sisaket) หรือ วัดสะตะสะหัสสาราม ซึ่งมีความหมายว่า วัดแสน เป็นวัดที่เก่าแก่ที่สุดในนครเวียงจันทน์ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2361 โดย พระเจ้าอนุวงศ์ กษัตริย์องค์สุดท้ายของราชวงศ์ล้านช้าง ทรงออกแบบวัดตามศิลปะรัตนโกสินทร์ตอนต้นของไทย




ปัจจุบันนี้วัดสีสะเกดได้กลายเป็นหอพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมพระพุทธรูป และวัตถุโบราณล้ำค่ามากมาย บริเวณรอบ ๆ วัด มีทางเดินพร้อมระเบียงล้อมรอบสี่ด้าน มีการเจาะซุ้มเล็ก ๆ เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปไว้ตลอดทั้งแนวกว่า 6,000 องค์ เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปมากที่สุดในเวียงจันทน์


ค่าเข้าชม : 30,000 กีบ หรือประมาณ 50 - 60 บาท (ราคาชาวต่างชาติ)
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




4. หอพระแก้ว • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



หอพระแก้ว (Haw Phra Kaew) ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดสีสะเกด เดิมเคยเป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ของลาว สร้างขึ้นโดย พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ.2108 - 2109 หลังย้ายเมืองหลวงจากหลวงพระบางมายังเวียงจันทน์ วัดนี้สร้างในเขตพระราชฐาน เพื่อประดิษฐานพระแก้วมรกต ที่อัญเชิญมาจากนครเชียงใหม่ เมืองหลวงของอาณาจักรล้านนาในอดีต โดยพระแก้วมรกตประดิษฐานที่วัดนี้เป็นเวลากว่า 200 ปี


ต่อมาเวียงจันทน์ถูกกองทัพสยามที่นำโดยเจ้าพระยาจักรี (รัชกาลที่ 1) ตีแตก กองทัพสยามอัญเชิญพระแก้วมรกตไปกรุงธนบุรี ต่อมาก้ได้ประดิษฐานที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร นั่นเอง




โดยหลังจากหอพระแก้วได้ถูกทำลาย ก็ได้มีการสร้างวัดขึ้นใหม่ ปัจจุบันได้รับการปรับเปลี่ยนให้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะทางศาสนา


ค่าเข้าชม : 5,000 กีบ หรือประมาณ 10 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 12.00 น. และ 13.00 - 16.00 น.
พิกัด : Google Map




5. สวนพระ • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



สวนพระ (Buddha Park) หรือ สวนวัฒนธรรมเชียงควน เป็นอุทยานรูปปั้นรูปเคารพ และพระพุทธรูปราว 200 องค์ สร้างขึ้นโดยหลวงปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ นักวิปัสสนาชาวไทย โดยรูปปั้นต่าง ๆ ทั้งพระพุทธรูป และรูปเคารพ ล้วนเป็นฝีมือของท่านและลูกศิษย์ ที่ร่วมกันสร้างในช่วงที่ท่านอยู่ลาว




นอกจากความสวยงามแปลกตานี้ สิ่งที่เพิ่มความขลังให้กับสถานที่นี้คือ การแฝงปริศนาธรรมต่าง ๆ ในรูปปั้นและพระพุทธรูปแต่ละองค์ ซึ่งเป็นหลักคำสอน ที่ต้องพิจารณาจึงจะเข้าใจ


ค่าเข้าชม : 40,000 กีบ หรือประมาณ 70 - 80 บาท (ราคาชาวต่างชาติ)
เปิดเข้าชม : จันทร์ - เสาร์ 08.00 - 17.00 น. / อาทิตย์ 10.00 - 15.30 น.
พิกัด : Google Map




6. วัดสีเมือง • เวียงจันทน์
ที่เที่ยวเวียงจันทน์ ต้องห้ามพลาด



วัดสีเมือง (Wat Si Muang) หรือ วัดศรีเมือง เป็นพระอารามหลวง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2106 ในสมัยของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ถือเป็น 1 ใน วัน 5 ศรี ประกอบด้วย ศรีเมือง ศรีพูล ศรีฐาน สีบัวบาน และ ศรีหอม


ในสมัยโบราณ การทำราชพิธีสำคัญของกษัตริย์ เช่น การราชาภิเษกขึ้นครองราชย์ จะต้องนำน้ำพุทธมนต์จาก วัด 5 ศรี มาประกอบพิธีพุทธาภิเษก




นอกจากนี้ วัดสีเมือง ยังเป็นสถานที่ตั้งของ ศาลหลักเมืองนครหลวงเวียงจันทน์ เก่าแก่ยาวนานกว่า 400 ปี มีคำบอกเล่าถึงตำนานของ แม่สีเมือง หญิงท้องแก่ ยอมสละชีวิตพร้อมลูกในท้อง และม้าอีกหนึ่งตัว เป็นผีอารักษ์เสาหลักเมืองเวียงจันทน์ จนกลายเป็นชื่อวัดสีเมือง และเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิชื่อดัง จนเป็นที่นิยมกราบไหว้ขอพรของผู้คนทั้งชาว สปป ลาว และชาวไทย


เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




ดู ที่เที่ยวต่างประเทศ ที่อื่น ๆ

>> 7 ประเทศน่าเที่ยว เที่ยวต่างประเทศ งบน้อย เที่ยวง่าย ไม่ต้องขอวีซ่า 2024



ที่เที่ยววังเวียง
เที่ยวลาวด้วยตัวเอง เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง


7. บลู ลากูน • วังเวียง
ที่เที่ยววังเวียง ต้องห้ามพลาด



บลู ลากูน (Blue Lagoon) สระน้ำสีฟ้ามรกตที่ใสสะอาดนี้ เป็นสระน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ห่างจากถ้ำภูคำ เพียง 200 เมตร ถือเป็นจุดท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เลย หากได้มาเที่ยวที่วังเวียง เป็นแหล่งพักผ่อนที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวลาวและชาวต่างชาติ พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทั้งห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร




โดยช่วงเวลาที่เหมาะจะมาเที่ยวบลู ลากูน วังเวียง จะเป็นช่วงเดือนตุลาคม - มีนาคม ซึ่งจะเป็นช่วงที่น้ำใสสะอาด ทิวทัศน์สวยงาม และร่มรื่นที่สุด


เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.30 - 17.30 น.
พิกัด : Google Map




8. สะพานส้ม • วังเวียง
ที่เที่ยววังเวียง ต้องห้ามพลาด



สะพานส้ม วังเวียง (Orange Bridge Vang Vieng) อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของวังเวียง เป็นสะพานสีส้มที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำซองเข้าสู่ ถ้ำจัง ตรงนี้เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปเช็กอิน เพราะนอกจากสะพานสีสดโดดเด่นแล้ว เบื้องหลังยังมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม

พิกัด : Google Map








9. ถ้ำจัง • วังเวียง
ที่เที่ยววังเวียง ต้องห้ามพลาด



ถ้ำจัง (Jang Cave / Tham Chang) เป็นถ้ำหินงอกหินย้อยขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงที่สุดในวังเวียง อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองวังเวียง ซึ่งการจะมาถึงถ้ำจัง ก็จะต้องเดินข้ามสะพานส้มมานั่นเอง




สำหรับการเดินทางขึ้นไปที่ถ้ำจังนั้น จะต้องเดินขึ้นบันได 147 ขั้น หรือระยะทางยาวประมาณ 50 เมตร เป็นทางลาดชัน ภายในถ้ำมีอากาศที่เย็นสบายและเดินง่าย เพราะมีไฟติดตั้งไว้ตามทางเดิน


ค่าเข้าชม : 15,000 กีบ หรือประมาณ 25 - 30 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 16.00 น.
พิกัด : Google Map




10. ถ้ำน้ำ • วังเวียง
ที่เที่ยววังเวียง ต้องห้ามพลาด



ถ้ำน้ำ (Tham Nam / Water Cave) อีกหนึ่งที่เที่ยวทางธรรมชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจของเมืองวังเวียง มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์อย่างการ นั่งห่วงยางลอดถ้ำน้ำ โดยภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยให้ได้ชม สามารถลงเล่นน้ำได้ภายนอกถ้ำ


นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมอืน ๆ เช่น พายเรือคายัค เล่นสลิง สำรวจถ้ำช้าง ซึ่งจะเป็นการซื้อแพ็กเกจทัวร์เข้าไป มีทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน ราคาตั้งแต่ 800 - 1000 บาท


เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map





ที่เที่ยวหลวงพระบาง
เที่ยวลาวด้วยตัวเอง เวียงจันทน์ วังเวียง หลวงพระบาง


11. หอพระบาง • หลวงพระบาง
ที่เที่ยวหลวงพระบาง ต้องห้ามพลาด



หอพระบาง (Haw Pha Bang) ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง เป็นที่ประดิษฐาน พระบาง พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์ของชาวลาว สร้างแบบศิลปะสมัยขอมหลังบายนตอนปลาย มีความเก่าแก่อายุอยู่ในช่วงราวปลายพุทธศตวรรษที่ 18 ถึงตอนต้นของพุทธศตวรรษที่ 19




สำหรับหอพิพิธภัณฑ์แห่งชาติหลวงพระบาง หรือ หอคำ เดิมเคยเป็น พระราชวังของเจ้ามหาชีวิตหลวงพระบาง (Royal Palace Laos) สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2447 ในสมัยของสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวงศ์ สืบทอดต่อมาถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของลาว และปรับให้เป็นหอพิพิธภัณฑ์หลวง เมื่อปี 2519


ค่าเข้าชม : 30,000 กีบ หรือประมาณ 50 - 60 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 11.00 และ 13.30 - 16.00 น.
พิกัด : Google Map




12. วัดเชียงทอง • หลวงพระบาง
ที่เที่ยวหลวงพระบาง ต้องห้ามพลาด



วัดเชียงทอง (Wat Xiengthong) เป็นวัดหลวงประจำราชวงศ์ล้านช้าง ราชวงศ์หลวงพระบาง และราชวงศ์ลาว สร้างขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2103 ในสมัยของ พระเจ้าไชยเชษฐาธิราช ถือเป็นวัดประตูเมือง และเป็นท่าเทียบเรือทางเหนือของตัวเมือง เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้แม่น้ำโขง เป็นวัดที่มีสถาปัตยกรรมแบบล้านช้างตอนเหนือที่งดงาม จนได้รับการขนานนามว่าเป็น "อัญมณีของศิลปะล้านช้าง"




ไฮไลท์ของวัดเชียงทอง คือ สิม หรือ อุโบสถ ที่เป็นศิลปะแบบล้านช้างที่สวยงาม และหอพระม่าน ที่จะเปิดให้เข้าชมความงามของพระม่าน ช่วงหลังสงกรานต์ เนื่องจากจะมีการอัญเชิญองค์พระม่านมาให้สรงน้ำเพื่อความเป็นสิริมงคล


ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ หรือประมาณ 30 - 40 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map




13. พระธาตุพูสี • หลวงพระบาง
ที่เที่ยวหลวงพระบาง ต้องห้ามพลาด



พระธาตุพูสี (Phousi Hill) ตั้งอยู่บนยอดเขาพูสี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าอนุรุท ปี พ.ศ. 2337 ก่อนจะมีการบูรณะซ่อมแซมเมื่อ พ.ศ. 2457 ตัวพระธาตุเป็นทรงดอกบัวสี่เหลี่ยมทาสีทอง ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมยอดประดับด้วยเศวตฉัตรทองสำริด 7 ชั้น สูงประมาณ 21 เมตร การขึ้นไปบนพระธาตุ จะต้องขึ้นบันได 328 ขั้น โดยตลอดทางขึ้น จะร่มรื่นไปด้วยต้นจำปา ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติลาว หรือที่บ้านเราเรียกว่าต้นลั่นทม




ไฮไลท์คือ การได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกดินแล้วบนยอดพูสี อีกทั้งในช่วงเย็น แสงอาทิตย์จะสาดส่องลงที่องค์พระธาตุพูสี ที่มีสีทองอร่ามอย่างพอดิบพอดี เกิดภาพที่งดงามมาก ๆ สามารถมองเห็นพระธาตุพูสีได้แทบจะทุกที่ในเมืองหลวงพระบาง เพราะพระธาตุพูสีตั้งอยู่บนยอดเขาสูง 150 เมตร ใจกลางเมืองหลวงพระบางนั่นเอง


ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ หรือประมาณ 30 - 40 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 06.00 - 19.00 น.
พิกัด : Google Map




14. น้ำตกตาดกวางสี • หลวงพระบาง
ที่เที่ยวหลวงพระบาง ต้องห้ามพลาด



น้ำตกตาดกวางสี (Tat Kuang Si Waterfall) เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 4 ชั้น ความสูง 75 เมตร เนื่องจากเป็นน้ำตกหินปูน สีของน้ำจึงเป็นสีเขียวมรกต จึงได้ชื่อว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดของหลวงพระบาง ชั้นที่นักท่องเที่ยวนิยมเล่นน้ำที่สุด คือชั้น 1 กับชั้น 2 ที่มีแอ่งกว้างและน้ำไม่ลึก




บริเวณน้ำตกตาดกวางสี ยังมีศูนย์อนุรักษฺหมี ที่ได้รับการช่วยเหลือจากการค้าสัตว์ป่าในลาว มาให้เราได้เที่ยวชมเหล่าน้องหมีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ที่ทอดยาวเป็นทางเดิน เพื่อให้เดินชมป่าเขียวครึ้มร่มรื่น และชมความสวยงามของน้ำตก


ค่าเข้าชม : 25,000 กีบ หรือประมาณ 40 - 50 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




15. น้ำตกตาดแส้ • หลวงพระบาง
ที่เที่ยวหลวงพระบาง ต้องห้ามพลาด



น้ำตกตาดแส้ (Tat Sae Waterfall) เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง มีแอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ อีกหนึ่งที่เที่ยวน้ำตกในหลวงพระบางที่ได้รับความนิยมมาก ๆ แม้จะเป็นน้ำตกที่ขนาดไม่สูงเท่าน้ำตกตาดกวางสี แต่ก็ถูกจัดให้เป็นอีกหนึ่งน้ำตกที่สวยที่สุดในหลวงพระบาง




การเดินทางไปน้ำตกตาดแส้ จะต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไป ระหว่างล่องเรือก็ได้จะชมวิวทิวทัศน์ริมฝั่งแม่น้ำคาน ใช้เวลาประมาณ 5 นาทีก็จะถึงน้ำตก


ช่วงเวลาน่าเที่ยวคือช่วงเดือนกรกฎาคม - เดือนธันวาคม เพราะเป็นช่วงที่มีน้ำเยอะ เหมาะกับการลงเล่นน้ำ


ค่าเข้าชม : 20,000 กีบ หรือประมาณ 30 - 40 บาท
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.30 น.
พิกัด : Google Map



BUGABOO LIFESTYLE

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark