คลิปที่เกี่ยวข้อง

25 ที่เที่ยวกาญจนบุรี สัมผัสธรรมชาติ ชมแลนด์มาร์คแต่ละโซน


 
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน


กาญจนบุรี อีกหนึ่งที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ยอดนิยม มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดกาญจนบุรีเป็นป่าไม้และภูเขาสูง สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเที่ยวหน้าร้อน เที่ยวหน้าฝน หรือเที่ยวหน้าหนาว ก็ขับรถมาเที่ยวใกล้กรุงได้เลย หรือจะเที่ยวค้างคืน 2 วัน 1 คืนก็ตามสะดวก

แต่ด้วยความที่กาญจนบุรีเป็นจังหวัดใหญ่ จึงมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ถ้าจะเที่ยวให้ครบ คงต้องใช้เวลาหลายวัน งานนี้ BUGABOO TRAVEL เลยขอพาชมแต่ละโซนเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี รวมถึงที่เที่ยวห้ามพลาด กับ 25 ที่เที่ยวกาญจนบุรี สัมผัสธรรมชาติ ชมแลนด์มาร์คแต่ละโซน เพื่อให้ง่ายต่อการวางแผนการเดินทาง จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน


ดู ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ และที่เที่ยวธรรมชาติ ที่อื่น ๆ คลิก

>> 8 ที่เที่ยวครอบครัว ใกล้กรุงเทพ ปิดเทอมพาลูกเที่ยว ไปเช้าเย็นกลับ

>> 6 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ เที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูปสวย ไม่หยุดยาวก็เที่ยวได้

>> 12 ที่เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็คอินสวยๆ เที่ยวได้ทั้งปี



โซนที่ 1
อำเภอเมือง และ อำเภอท่าม่วง

โซนนี้ถ้ามาจากกรุงเทพ จะใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง ใครมีเวลาเที่ยวไม่มาก หรืออยากเที่ยวแบบวันเดย์ทริป แนะนำเส้นทางนี้เลย มีสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น สะพานข้ามแม่น้ำแคว, วัดถ้ำเสือ, ต้นจามจุรียักษ์ และโซนนี้ก็ยังมีคาเฟ่ ร้านอาหารให้เลือกแวะอีกมากมายเลยล่ะค่ะ



1. สะพานข้ามแม่น้ำแคว • อ.เมืองกาญจนบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



สะพานข้ามแม่น้ำแคว ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของกาญจนบุรี และยังเป็นอนุสรณ์สงครามมหาเอเชียบูรพาอีกด้วย ไฮไลท์ของที่นี่คือ การมาเดินเล่นถ่ายภาพบนรางรถไฟ ที่วางพาดอยู่บนสะพานข้ามแม่น้ำแควที่มีระยะทาง 300 เมตร เป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาชมความงามของสองฝากฝั่งแม่น้ำแคว




ที่อยู่ : ต.ท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 06.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map




2. วัดถ้ำเสือ • อ.ท่าม่วง
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



วัดถ้ำเสือ เป็นวัดสวยและมีชื่อเสียงในจังหวัดกาญจนบุรี ก่อตั้งในปี พ.ศ.2514 โดยพระครูสิทธิวิมล อยู่ติดกับวัดถ้ำเขาน้อยซึ่งเป็นวัดจีนที่ตั้งอยู่ด้านหลัง เป็นที่รู้จักสำหรับทิวทัศน์ที่ล้อมรอบด้วยทุ่งนา และประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ หลวงพ่อชินประทานพร สูง 18 เมตร




ภายในวัดประกอบด้วยอาคารและเจดีย์ สถาปัตยกรรมไทย, จีน, ญี่ปุ่น และผสมผสาน เดิมเป็นสำนักสงฆ์ขนาดเล็กในบริเวณถ้ำเสือด้านล่างริมเนินเขา ต่อมาชาวบ้าน ร่วมกันสร้างและบูรณะ จนกลายเป็นวัดที่ใหญ่โต และมีความวิจิตรงดงาม




วัดถ้ำเสือ เปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเยี่ยมชมและสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวัน ค่าบริการรถรางไฟฟ้า ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท


ที่อยู่ : ต.ม่วงชุม อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




3. ต้นจามจุรียักษ์ • อ.เมืองกาญจนบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



ต้นจามจุรียักษ์ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดยิ่งใหญ่อลังการ ต้นจามจุรียักษ์ ต้นไม้ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 50 เมตร ความสูงกว่า 20 เมตร และลำต้นมีขนาด 10 คนโอบ การที่ต้นไม้จะมีขนาดใหญ่ได้เท่านี้ เป็นอะไรที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ ต้นจามจุรียักษ์ ยังมีพื้นที่ไว้สำหรับนั่งเล่น นั่งพักผ่อนชิล ๆ หรือจะหามุมถ่ายรูปสวย ๆ ก็เพลินสุด ๆ




ที่อยู่ : ต.เกาะสำโรง อ.เมือง กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.30 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map




โซนที่ 2
อำเภอศรีสวัสดิ์ เขื่อนศรีนครินทร์


ขยับมาโซนที่สอง ไม่ไกลกันมาก นั่นคือ โซนเขื่อนศรีนครินทร์ อำเภอศรีสวัสดิ์ แหล่งรวมที่เที่ยวธรรมชาติ และที่พักสวย ๆ วิวเขื่อน โดยอำเภอศรีสวัสดิ์ ยังเป็นที่ตั้งของอุทยานแห่งชาติ ถึง 3 แห่ง คือ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ เป็นโซนที่มีที่เที่ยวธรรมชาติเยอะมาก ๆ วันเดียวเที่ยวไม่พอจริง ๆ



4. เขื่อนศรีนครินทร์ • อ.ศรีสวัสดิ์
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



เขื่อนศรีนครินทร์ เป็นเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ บริเวณโดยรอบเขื่อนมีพื้นที่กว้างขวาง และมีจุดไฮไลต์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัสเยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น บริเวณสันเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ ที่มีทัศนียภาพที่สวยงาม โดยสามารถนั่งเรือชมอ่างเก็บน้ำ หรือชมทิวทัศน์จากจุดชมวิวรอบ ๆ เขื่อนได้




นอกจากนี้ยังมี สวนเวลารำลึก เป็นสวนประติมากรรมบอกเวลา อยู่ภายในเขื่อนศรีนครินทร์ มีสัญลักษณ์รูปนาฬิกาแดด เป็นเครื่องเตือนใจให้รำลึกถึงคุณค่าแห่งชีวิตที่ก้าวล่วงเวลาทุกนาทีที่ผ่านไป


ที่อยู่ : ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
พิกัด : Google Map








5. น้ำตกเอราวัณ • อ.ศรีสวัสดิ์
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



น้ำตกเอราวัณ หรือเดิมชื่อว่า น้ำตกสะด่องม่องล่าย เป็นน้ำตกที่สวยงาม และมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น ความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป จุดเด่นของน้ำตกเอราวัณ คือ บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า “ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ “อุทยานแห่งชาติเอราวัณ”



 

น้ำตกเอราวัณ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 100 – 400 เมตร มีระยะทางจากชั้นล่างสุดขึ้นไปชั้นบนสุด 1,500 เมตร ลำน้ำเมื่อตกลงมาแล้วจะไหลลงแม่น้ำแควใหญ่บริเวณที่ทำการอุทยาน เดิมน้ำตกนี้ชาวบ้านเรียกว่า น้ำตกสะด่องม่องลาย อันเป็นชื่อลำห้วยม่องลายที่เป็นต้นน้ำ โดย น้ำตกเอราวัณ ในช่วงฤดูแล้ง ราวเดือนธันวาคมถึงเมษายน อาจจะมีน้ำน้อยหน่อย แต่พอเล่นได้ชื่นใจอยู่ แถมทางอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ก็มีที่พัก และลานกางเต็นท์ให้บริการด้วย




น้ำตกเอราวัณ การเดินทาง
น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 500 เมตร
การเดินทางไป น้ำตกเอราวัณ ค่อนข้างสะดวก ไม่ลำบาก สามารถเดินทางด้วยรถส่วนตัวได้ และยังมีรถโดยสารที่มาส่งถึงน้ำตกอีกด้วย อยู่ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 62 กิโลเมตร




น้ำตกเอราวัณ ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ (คนไทย) 60 บาท / เด็ก 30 บาท
ผู้ใหญ่ (ชาวต่างชาติ) 300 บาท / เด็ก 150 บาท
ค่าจอดรถ รถยนต์ 30 บาท / รถจักรยานยนต์ 20 บาท




น้ำตกเอราวัณ เปิดให้บริการนักท่องเที่ยว และประชาชนทุกวันระหว่างเวลา 07.00 - 16.30 น. (กรณีเข้าพักค้างต้องเข้าก่อนเวลา 20.00 น.)


ที่อยู่ : ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 16.30 น.
ที่จอดรถ : จอดที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
โทร : 034 574 222
Facebook : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park
พิกัด : Google Map




6. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น • อ.ศรีสวัสดิ์
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์เพียง 100 เมตร เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยแม่ขมิ้น ไหลผ่านเทือกเขาหินปูน ลดหลั่นลงมาเป็นชั้น ๆ ก่อให้เกิดน้ำตกที่สวยงาม มีทั้งหมด 7 ชั้น ถือเป็นน้ำตกที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย




นอกจากนี้บริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติของป่าเบญจพรรณและป่าเต็งรัง โดยจะผ่านจุดชมวิวทิวทัศน์ของอ่างเก็บน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์ อีกด้วย




การเดินทางไป น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
ไปเส้นทางเดียวกันกับน้ำตกเอราวัณ เมื่อผ่านถ้ำพระธาตุไป ก็จะเจอกับทางลาดยาง ไม่นานก็จะถึงตัว น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น




ที่อยู่ : ต.แม่กระบุง อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 17.00 น.
Facebook : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park
พิกัด : Google Map




7. ถ้ำธารลอดน้อย • อ.ศรีสวัสดิ์
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



ถ้ำธารลอดน้อย ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ตัวถ้ำจะมีความยาวประมาณ 300 เมตร ปากถ้ำกว้างประมาณ 25 เมตร สูงประมาณ 10 เมตร มีธารน้ำไหลลอดผ่านภายในถ้ำตลอดเวลา จึงทำให้ภายในถ้ำมีอากาศที่ เย็นสบาย อีกทั้งภายในถ้ำเดินสะดวกสบายมีทางเดินคอนกรีตตั้งแต่ปากถ้ำถึงปลายถ้ำ มีระบบไฟฟ้าส่องสว่าง




ไฮไลท์คือ ภายในถ้ำมีหินงอกหินย้อยที่มีรูปร่างต่าง ๆ ตามจินตนาการ เช่น เสาหิน ผ้าม่าน ฯลฯ


ที่อยู่ : ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.30 - 16.30 น.
พิกัด : Google Map








8. ถ้ำธารลอดใหญ่ • อ.ศรีสวัสดิ์
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



ถ้ำธารลอดใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ ถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ จุดเด่นคือ บนเพดานถ้ำมีโพรงขนาดใหญ่ ที่แสงแดดส่องลอดเข้ามาในถ้ำได้ ทำให้ภายในถ้ำสว่าง และมีต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่ตามพื้นถ้ำ ที่ฟากหนึ่งของผนังถ้ำมีภาพเขียนสีรูปพญานาค ซึ่งชาวกะเหรี่ยงเชื่อว่าถ้ำแห่งนี้เคยเป็นที่อยู่ของพญานาค




การเดินทางไปถ้ำธารลอดใหญ่ สามารถเดินเท้าจากถ้ำธารลอดน้อย ซึ่งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานฯ เฉลิมรัตนโกสินทร์ ไปตามทางเดินก็จะถึงถ้ำธารลอดใหญ่ ระยะทางประมาณ 2,200 เมตร เส้นทางบางช่วงต้องไต่เขาสูงชัน โดยเฉพาะช่วงที่ผ่านน้ำตกไตรตรึงษ์




นอกจากนี้ยังสามารถเดินทางไปถ้ำธารลอดใหญ่โดยทางรถยนต์ จากที่ทำการอุทยานฯ เฉลิมรัตนโกสินทร์ ไปทางบ้านท่าลำไย ประมาณ 3 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวไปวัดถ้ำธารลอดใหญ่อีก 18 กิโลเมตร เป็นเส้นทางขึ้นเขาคดเคี้ยว นักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยเส้นทางควรขับรถด้วยความระมัดระวัง


ที่อยู่ : ต.เขาโจด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map



ดู ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ และที่เที่ยวธรรมชาติ ที่อื่น ๆ คลิก

>> 10 ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพ ไปเช้าเย็นกลับ เที่ยวได้ทั้งปี ไม่มีเอาท์

>> 14 ที่เที่ยวจันทบุรี เที่ยวไม่มีเบื่อ ไปครั้งเดียว เที่ยวครบทุกแนว

>> 6 ที่เที่ยวลพบุรี ย้อนรอยเมืองละโว้ เดินทางง่าย ใกล้กรุงเทพ




โซนที่ 3
อำเภอไทรโยค


ข้ามฝั่งมาทางอำเภอไทรโยค ที่นี่มีน้ำตกสวยชื่อดัง อย่างน้ำตกไทรโยคน้อย และ น้ำตกไทรโยคใหญ่ แต่ที่ขึ้นชื่อสุด ๆ หลายคนมาเมืองกาญก็อยากจะแวะมานอนพักที่นี่ นั่นคือ ที่พักแพริมน้ำ บนแม่น้ำแควน้อย ในอำเภอไทรโยค นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ, ปราสาทเมืองสิงห์, พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ที่สายตามรอยประวัติศาสตร์ต้องไม่พลาด



9. น้ำตกไทรโยคน้อย • อ.ไทรโยค
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



น้ำตกไทรโยคน้อย หรือ น้ำตกเขาพัง อีกหนึ่งน้ำตกที่มีชื่อเสียงในจังหวัดกาญจนบุรี ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ต้นกำเนิดเป็นน้ำผุดจากภูเขาแล้วไหลมาตามลำธารเล็กๆ ไหลตกลงที่ผาหินปูนที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร แผ่กระจายไปตามพื้นลาดเอียงภายใต้ร่มเงาของพันธุ์ไม้นานาชนิด ในลำธารมีต้นกกขึ้นอยู่กระจัดกระจาย นับเป็นบรรยากาศที่ชวนให้ไปสัมผัสอีกแห่งหนึ่ง




การเดินทางสะดวกมาก เพราะอยู่ติดกับถนนสายกาญจนบุรี - ทองผาภูมิ ด้วยระยะทาง 65 กิโลเมตร จากจังหวัดกาญจนบุรี ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติ 33 กิโลเมตร หรือทางรถไฟ เริ่มต้นจากสถานีธนบุรี ไปสิ้นสุดที่สถานีน้ำตก ตำบลท่าเสา ห่างจากตัวน้ำตกประมาณ 500 เมตร




ที่อยู่ : ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
โทร : 089 028 1958
Facebook : อุทยานแห่งชาติไทรโยค - Sai Yok National Park
พิกัด : Google Map








10. น้ำตกไทรโยคใหญ่ • อ.ไทรโยค
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



น้ำตกไทรโยคใหญ่ หรือ น้ำตกเขาโจน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค เป็นน้ำตกที่มีความสูงประมาณ 8 เมตร และมีสายน้ำไหลตลอดทั้งปี โดยไหลลงสู่แม่น้ำแควน้อย ภายในอุทยานฯ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติหลายเส้นทาง บริเวณใกล้เคียงมีถ้ำขนาดเล็กและมีจุดชมทิวทัศน์บนสะพานแขวนข้ามแม่น้ำแควน้อย ซึ่งสามารถข้ามไปเล่นน้ำฝั่งตรงข้ามน้ำตกได้




บริเวณอุทยานฯ มีบริการร้านอาหาร แพพัก แพล่อง เรือเช่า บ้านพัก ค่ายพักแรม และสถานที่กางเต็นท์ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน ชาวไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 300 บาท เด็ก 200 บาท




ที่อยู่ : ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
โทร : 089 028 1958
Facebook : อุทยานแห่งชาติไทรโยค - Sai Yok National Park
พิกัด : Google Map








11. ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ • อ.ไทรโยค
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน

 

ถ้ำกระแซ เป็นอีกจุดชมวิวแม่น้ำแควที่สวยที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี และถือเป็นอีกไฮไลท์สำคัญของจังหวัด โดยภายในถ้ำมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประดิษฐานอยู่ อดีตที่แห่งนี้เคยเป็นที่พักของเชลยศึกเมื่อครั้งสร้างทางรถไฟสายมรณะเส้นนี้ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 การเดินทางมาที่นี่จะเป็นการขึ้นรถไฟมาเท่านั้น สถานีรถไฟถ้ำกระแซจะมีรถไฟผ่านทั้งหมด 3 ขบวนต่อวัน มาถึงถ้ำกระแซเวลา 7.36 น. / 11.41 น. / 17.51 น.




ใครที่แวะมาเช็คอินถ่ายรูปที่ ถ้ำกระแซ ทางรถไฟสายมรณะ แห่งนี้ ต้องระวังเรื่องการเดินบนรางรถไฟ และระวังรถไฟที่จะวิ่งผ่านด้วยน๊า


ที่อยู่ : ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 07.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map










12. ปราสาทเมืองสิงห์ • อ.ไทรโยค
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



ปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์ ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธศาสนสถานในพุทธศาสนา นิกายมหายาน มีสถาปัตยกรรม และปฏิมากรรม คล้ายคลึงกับของสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 กษัตริย์นักสร้างปราสาทแห่งขอม




จากการขุดแต่งของกรมศิลปากร พบศิลปกรรมที่สำคัญยิ่งคือ พระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร และ นางปรัชญาปารมิตา และยังพบรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมีอีกองค์หนึ่ง รูปลักษณ์คล้ายกับที่พบในประเทศกัมพูชาอีกด้วย




ภายในบริเวณปราสาทเมืองสิงห์จะมีป้าย QR Code หลากหลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น และจีน เพิ่ออธิบายความเป็นมาของสถานที่สำคัญต่าง ๆ


ที่อยู่ : ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 16.30 น.
โทร : 034 670 264
พิกัด : Google Map




13. พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด • อ.ไทรโยค
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีที่ไม่ควรพลาด พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ที่นี่คืออนุสรณ์สถานที่สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้กับเชลยศึกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ รวมถึงโครงสร้างทางวิศวกรรมในการสร้างทางรถไฟของญี่ปุ่นอีกด้วย อนุสรณ์สถานแห่งนี้สร้างขึ้นโดย นายเจ จี ทอม มอร์ริส ชาวออสเตรเลีย หนึ่งในเชลยศึกที่ทำงานสร้างรางรถไฟแห่งนี้นั่นเอง




ที่อยู่ : ต.ท่าเสา อ.ไทรโยค กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 09.00 - 16.00 น.
โทร : 081 733 0328
พิกัด : Google Map



ดู ที่เที่ยวธรรมชาติ ที่เที่ยวต่างจังหวัด ที่อื่น ๆ คลิก

>> เที่ยวบึงกาฬ ชมธรรมชาติสุดอันซีน ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เมืองนาคา

>> เที่ยวภูกระดึง เที่ยวช่วงไหน เตรียมอะไรบ้าง มาดูกัน

>> 14 ที่เที่ยวขอนแก่น เที่ยวอีสานม่วนคัก มาถึงแล้วต้องห้ามพลาด




โซนที่ 4
อำเภอทองผาภูมิ


อำเภอทองผาภูมิ มีแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังอย่าง บ้านอีต่อง เหมืองปิล๊อก และน้ำตกจ๊อกกระดิ่น ต่างขึ้นชื่อเรื่องทัศนียภาพที่สวยงาม นอกจากนี้ในทองผาภูมิก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ เช็กอินอีกเพียบ โดยเฉพาะสายแคมป์ปิ้ง เตรียมมาตั้งเต็นท์กันได้เลย ไม่ว่าจะเป็น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ, เขาช้างเผือก, เขื่อนวชิราลงกรณ, จุดชมวิวเนินช้างศึก และ อุทยานแห่งชาติลำคลองงู

**อำเภอทองผาภูมิ หากมาจากกรุงเทพ จะใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง แนะนำวางแผนเที่ยวกันอย่างน้อย ๆ ก็ 2 วัน 1 คืนนะคะ**



14. บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



บ้านอีต่อง เหมืองปิล็อก ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ อยู่ติดชายแดนระหว่างไทย-พม่าที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ และแหล่งที่พักโฮมสเตย์




ในอดีตเมื่อปี 2483 ชุมชนแห่งนี้มีความรุ่งเรืองทางการค้า และเคยเป็นที่ตั้งของเหมืองปิล็อก ต่อมาในปี 2528 ราคาแร่ทั่วโลกตกต่ำ การค้าขายซบเซาลงมาก ปัจจุบันที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม มีเอกลักษณ์ และบรรยากาศสุดโรแมนติก เป็นอีกสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ สายถ่ายรูป ห้ามพลาดเลยจริง ๆ

ที่อยู่ : บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พิกัด : Google Map








15. น้ำตกจ๊อกกระดิ่น • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ใครมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ต้องแวะมาเล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำที่ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลลงสู่แอ่งน้ำสีเขียวมรกตขนาดใหญ่ด้านล่าง น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านอีต่อง ไปทางเหมืองปิล็อก โดยที่นี่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่แนะนำช่วงปลายฝนต้นหนาว น้ำใสไหลเย็น อากาศดีมาก ๆ


ที่อยู่ : บ้านอีต่อง ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 08.00 - 17.00 น.
พิกัด : Google Map










16. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อีกหนึ่งผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ ครอบคลุมพื้นที่เขตอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ล้อมรอบไปด้วยร่มไม้เขียวครึ้ม อากาศเย็นสบาย พื้นที่ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าเบญจพรรณ เนื่องจากมีพื้นที่ติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จึงสามารถพบสัตว์ป่าขนาดใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก




ไฮไลท์ของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ คือจุดชมวิว ที่มีทั้งทิวทัศน์ของขุนเขามากมาย และทิวทัศน์ทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ และยังมีจุดกางเต็นท์ในชัยภูมิดีเยี่ยมอีกด้วย




อุทยานฯ มีสถานที่สำหรับกางเต็นท์พักแรมให้บริการ ค่าธรรมเนียมเข้าอุทยานฯ ชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท


ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 16.30 น.
โทร : 098 252 0359
Facebook : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
พิกัด : Google Map




17. เขาช้างเผือก • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



เขาช้างเผือก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตำบลปิล็อก เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย พิชิตยอดเขาช้างเผือกที่สูงที่สุดถึง 1,249 เมตร การเดินทางขึ้นเขาช้างเผือกจะใช้เวลารวม 2 วัน 1 คืน ระยะทาง 8 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินป่าไปยังจุดกางเต็นท์ประมาณ 4-5 ชั่วโมง




ในการเดินช่วงแรกจะผ่านป่าโปร่ง และเนินเขาที่มีลักษณะสูงต่ำสลับกัน มีเนินทุ่งหญ้าสวยระหว่างทางให้แวะพักถ่ายรูป จากจุดกางเต็นท์ประมาณ 500-600 เมตร จะผ่านสันเขาซึ่งเป็นจุดสำคัญของเขาช้างเผือก ที่เรียกว่า “สันคมมีด” หรือ “สันวัดใจ” ลักษณะของสันเขามีพื้นที่แคบมาก มีก้อนหินขนาดใหญ่และขนาดเล็กเรียงรายอยู่ ต้องเดินเรียงแถวเดี่ยวเพื่อปีนหน้าผาขึ้นไป เมื่อพ้นช่วง “สันคมมีด” จะเป็นเนินเขาที่ให้เดินต่อไปจนถึงจุดสูงสุดของเขาช้างเผือก ซึ่งเป็นจุดที่สามารถเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา โดยทางอุทยานฯ เปิดให้เข้าเที่ยวชมได้ระหว่างเดือนพฤศจิกายน – มกราคมของทุกปี




ที่อยู่ : ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 16.30 น.
โทร : 098 252 0359
Facebook : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
พิกัด : Google Map








18. เขื่อนวชิราลงกรณ • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



เขื่อนวชิราลงกรณ หรือ เขื่อนเขาแหลม เป็นเขื่อนหินถมแห่งแรกของประเทศไทยที่ดาดผิวหน้าด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก สูง 92 เมตร สันเขื่อนกว้าง 10 เมตร ยาว 1,019 เมตร สร้างเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ป้องกันอุทกภัย และดูแลการเกษตร




ตัวอ่างเก็บน้ำอยู่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี บริเวณเหนือเขื่อนมีทิวทัศน์สวย เหมาะสำหรับการล่องเรือ และในเขื่อนยังมีแพพักให้บริการด้วย


ที่อยู่ : ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 06.00 - 18.00 น.
โทร : 034 599 077
Facebook : เขื่อนวชิราลงกรณ จังหวัดกาญจนบุรี
พิกัด : Google Map








19. จุดชมวิวเนินช้างศึก • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



จุดชมวิวเนินช้างศึก หรือยอดดอยปิล็อก เป็นจุดยุทธศาสตร์จุดหนึ่งของชายแดนไทย-พม่า เป็นที่ตั้งฐานของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล ประมาณ 1,053 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นทิวทัศน์ได้ 360 องศา และยังถือเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น พระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งนึงของไทย




นอกจากนี้บริเวณจุดชมวิวเนินช้างศึก ยังมีสถานที่กางเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย แต่ต้องเตรียมเต็นท์และเครื่องนอนไปเอง โดยจะเปิดให้นักท่องเที่ยวและประชาชนเยี่ยมชมทุกวัน


ที่อยู่ : ต.ปิล็อก อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พิกัด : Google Map




20. อุทยานแห่งชาติลำคลองงู • อ.ทองผาภูมิ
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



อุทยานแห่งชาติลำคลองงู สายลุยปักหมุดมาได้เลย ลำคลองงู เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดกาญจนบุรี เหมาะสำหรับผู้ที่รักการผจญภัย และต้องมาให้ได้สักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่เต็มไปด้วยลำห้วยกลางผืนป่า เทือกเขาหินปูนที่ถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดเป็นถ้ำธรรมชาติ โดยถ้ำที่มีชื่อเสียงที่สุดในนี้คือ ถ้ำเสาหินลำคลองงู ในถ้ำเต็มไปด้วยหินงอกหินย้อยที่สวยงาม




ที่อยู่ : ต.ชะแล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
เปิดบริการ : ทุกวัน 08.00 - 16.30 น.
โทร : 084 913 2381
Facebook : อุทยานแห่งชาติลำคลองงู
พิกัด : Google Map







โซนที่ 5
อำเภอสังขละบุรี


เป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี มีอาณาเขตติดต่อกับ ประเทศพม่า โดยมีจุดผ่านแดนเพื่อการท่องเที่ยวอยู่ที่ ด่านเจดีย์สามองค์ เพียงจุดเดียว โดยทางด้านทิศเหนือของอำเภอยังอยู่ในพื้นที่ของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก ซึ่งเป็นผืนป่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ท่ามกลางธรรมชาติสวยๆ ที่นี่เรายังจะได้สัมผัสกับวิถีชุมชนที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม ไม่ว่าจะทั้งไทยและมอญ

**อำเภอสังขละบุรี จากกรุงเทพ จะใช้เวลาเดินทางกว่า 6 ชั่วโมง แนะนำวางแผนเที่ยวกันอย่างน้อย ๆ ก็ 2 วัน 1 คืนนะคะ**



21. สะพานมอญ • อ.สังขละบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



สะพานมอญ หรือ สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสะพานไม้อูเบ็งในประเทศพม่า ใช้ข้ามแม่น้ำซองกาเลียสร้าง ขึ้นโดยดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ระหว่าง พ.ศ.2529 - พ.ศ.2530 เพื่อให้คนไทย กระเหรี่ยงและมอญได้สัญจรไปมาหาสู่กัน




นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเยี่ยมชมสะพานเพื่อชมแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้ารวมถึงวิถีชีวิตของชาวไทยและชาวมอญ


ที่อยู่ : ซ.สะพานไม้ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
พิกัด : Google Map










22. วัดวังก์วิเวการาม ใหม่ • อ.สังขละบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ โดยหลวงพ่ออุตตมะ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเชื้อสายมอญที่ชาวบ้านเคารพนับถือ ซึ่งวัดแห่งนี้สร้างโดย หลวงพ่ออุตตมะ ร่วมกับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี ชาวกะเหรี่ยง และชาวมอญร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496


ต่อมาในปี 2527 มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือ เขื่อนวชิราลงกรณ ทำให้ต้องย้ายวัดขึ้นไปตั้งอยู่บนเนินสูงในบริเวณที่เรียกว่า สามประสบ ซึ่งเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สาย คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกัน


สถานที่สำคัญภายในบริเวณวัดวังก์วิเวการาม ใหม่ ได้แก่ ศาลาประดิษฐานสังขารหลวงพ่ออุตตมะ วิหารพระพุทธรูปหินอ่อน และ เจดีย์พุทธคยาจำลอง เป็นที่นับถือสักการะของชาวบ้านในพื้นที่


ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
Facebook : วัดวังก์วิเวการาม บ้านวังกะ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
พิกัด : Google Map




23. วัดใต้น้ำ • อ.สังขละบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



วัดใต้น้ำ หรือ วัดจมน้ำ คือวัดวังก์วิเวการามเดิม ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็น Unseen ของจังหวัดกาญจนบุรี เพราะมีความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นสถานที่เล่าขานถึงตำนานความเป็นมาของวัดหลวงพ่ออุตตมะ จนหลายคนเรียกกันว่าเมืองบาดาล




โดยในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม น้ำในแม่น้ำจะลดลงจนนักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปในโบสถ์ได้ แต่หากมาในช่วงอื่น ๆ เราจะทำได้แค่ล่องเรือไปในบริเวณใกล้ ๆ กับโบสถ์เท่านั้น โดยจะได้เห็นผนังโบสถ์บางส่วนโผล่พ้นน้ำขึ้นมาให้ชม


ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
พิกัด : Google Map










24. จุดชมวิวป้อมปี่ • อ.สังขละบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



จุดชมวิวป้อมปี่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติเขาแหลม ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวธรรมชาติสวยๆ ที่ล้อมรอบเขื่อนวชิราลงกรณ์ ที่นี่ยังเป็นแหล่งดูนกที่อุดมสมบูรณ์มาก มีนกนานาชนิด ทั้งนกเหงือก นกกระเต็นอกขาว เขียวก้านตองปีกฟ้า และอีกมากมาย ที่สำคัญยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงามของภาคตะวันตกอีกด้วย




ที่อยู่ : เขื่อนวชิราลงกรณ์ ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 06.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map




25. ด่านเจดีย์สามองค์ • อ.สังขละบุรี
เที่ยวกาญจนบุรี รวมจุดเช็กอินแต่ละโซน



ด่านเจดีย์สามองค์ เป็นเขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตก ในอดีตเป็นช่องทางเดินทัพของไทยและพม่า นักท่องเที่ยวสามารถข้ามชายแดนเข้าไปชมตลาดพญาตองซูในเขตพม่า โดยติดต่อทำเอกสาร/หลักฐานได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองสังขละบุรี




โดยในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์ ด่านชายแดนแห่งนี้จะมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ เนื่องจากไม่เพียงคลาคล่ำด้วยนักท่องเที่ยวมากมายที่เดินทางเข้ามาจับจ่ายซื้อหาสินค้าแปลกตาเท่านั้น หากยังคึกคักด้วยบรรดา พ่อค้าแม่ขายทั้งจากฝั่งไทยและเมียนมานำสินค้าเข้ามาจำหน่ายไม่แพ้กัน


สำหรับ พระเจดีย์สามองค์ เดิมเป็นเพียงก้อนหินวางซ้อน ๆ กันสามกอง จึงเรียกที่แห่งนี้ว่า หินสามกอง เป็นที่สักการะของคนไทยโดยทั่วไป ก่อนที่จะเดินทางออกเขตแดนไทยเข้าสู่เขตแดนพม่า




ต่อมาในปี พ.ศ. 2432 ได้มีการก่อสร้างองค์เจดีย์ขึ้นบนหินสามกอง เจดีย์แต่ละองค์สูงประมาณ 6 เมตร ตั้งห่างกันประมาณ 5-6 เมตร ซึ่งในปี พ.ศ.2546 กรมศิลปกรได้ดำเนินการขุดแต่ง และพบฐานเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมที่ก่ออิฐอยู่ด้านใต้ซึ่งสันนิษฐานว่ามีการสร้างเจดีย์องค์เดิมมาแล้วในสมัยกรุงศรีอยุธยา จึงได้ประกาศขึ้นทะเบียนพระเจดีย์สามองค์เป็นโบราณสถานของชาติในปี พ.ศ.2498


ที่อยู่ : ต.หนองลู อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี
เปิดเข้าชม : ทุกวัน 06.00 - 18.00 น.
พิกัด : Google Map



ดู ที่เที่ยวธรรมชาติ ที่เที่ยวต่างจังหวัด ที่อื่น ๆ คลิก

>> 7 ที่เที่ยวม่อนแจ่ม แม่ริม หน้าหนาว บรรยากาศดี 2566

>> 5 พิกัด เที่ยวเชียงดาว ชมหมอกเมืองเชียงใหม่ 2023

>> พิกัด 15 ที่เที่ยวเชียงราย รวมฮิต 7 อำเภอ หนาวนี้ไปแอ่วเมืองรองกันจ้าว

>> 10 ที่เที่ยวเลย เชียงคาน เที่ยวเมืองรอง ชมธรรมชาติ ทะเลหมอกภูอีสาน

>> 8 ที่เที่ยวเพชรบูรณ์ เขาค้อ ภูทับเบิก สัมผัสอากาศหนาว ฟินทะเลหมอก

>> 6 ที่เที่ยวพิษณุโลก แหล่งเช็กอินที่สายมู และคนรักธรรมชาติห้ามพลาด



BUGABOO LIFESTYLE

ดูเพิ่มเติมแสดงน้อยลง Bookmark